เมื่อเดินทางมาถึง เซนไดแล้ว สำหรับใครที่ไม่อยากอยู่แค่ในเมืองที่รถติด อยากปล่อยอารมณ์พร้อมเปิดเพลงที่ชอบให้ล่องลอยไประหว่าง ขับรถท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันสวยงาม มีทั้งทะเลสาบ น้ำตก อนเซ็นธรรมชาติท่ามกลางหุบเขาทั้งสองข้างทาง “โทโฮกุ” สามารถตอบโจทย์ได้อย่างมาก เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ที่มีความอุมสมบูรณ์จนบางที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ และสถานที่ต่อไปนี้คือสถานที่ที่เราคัดมาแล้วว่าถ้ามา “โทโฮกุ” แล้วจะต้องมาเยือนให้ได้!!!
[01]
จุดชมวิวรถไฟสายทาดามิ (Tadami Line )
สะพานไดอิจิเคียวเรียว (Daiichi Kyouryou) ในบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งจะมีชื่อเสียงเรื่องทัศนียภาพอันงดงามแสนโรแมติกเปรียบเหมือนอยู่ในโลกนวนิยาย ช่วงที่ภูเขาและทะเลสาบจะสวยที่สุด คือฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาว บริเวณทางขึ้นของจุดชมวิวต้องใช้การเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น (ใช้เวลาเดินประมาณ 15-30 นาที)
[02]
อินะวะชิโระ (Inawashiro)
ถือเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในสี่ของทะเลสาบในญี่ปุ่นที่มีน้ำใสสะอาดที่สุดด้วยครับ สำหรับต้นกำเนิดของทะเลสาบแห่งนี้นั้นเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟซึ่งอยู่ใกล้กับภูเขาบันไดเมื่อหลายหมื่นปีก่อน และนั่นเลยทำให้น้ำในทะเลสาบแห่งนี้มีความเป็นกรดอ่อนๆ รวมทั้งไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ ที่อาศัยอยู่ใต้น้ำเลย ดังนั้นน้ำในทะเลสาบแห่งนี้จึงใสสะอาดมากจนได้รับฉายาว่า “ทะเลสาบกระจกสวรรค์” และในวันที่อากาศดีๆ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง น้ำในทะเลสาบแห่งนี้จะสะท้อนภาพภูเขาบันไดที่อยู่ด้านหลังได้เด่นชัดมาก ใครที่ต้องการมาเที่ยว ที่ทะเลสาบแห่งนี้ แนะนำให้มาในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะ เพราะว่าจะเป็นช่วงที่มีความสวยงามมาก อีกทั้งยังมีหงส์และนกเป็ดน้ำที่หนีหนาวมาอาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
[03]
HIROSAKI SAKURA MATSURI,AOMORI
เทศกาลชมดอกซากุระฮิโรซากิ (Hirosaki Sakura Matsuri)
เป็นเทศกาลครั้งยิ่งใหญ่ จะมีนักท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคนแวะเวียนเข้าชื่นชมความงามของดอกซากุระ 2,600 ต้น 52 สายพันธุ์ ในสวนสาธารณะฮิโรซากิเป็นประจำทุกปี ถึงแม้ปราสาทได้ปิดซ่อมแซมตั้งแต่ปี 2558 และคาดว่าต้องใช้เวลาบูรณะถึง 10 ปี ทำให้ไม่สามารถเห็นปราสาทที่ล้อมรอบด้วยซากุระจากสะพานแดงได้ แต่สวนสาธารณะที่อยู่โดยรอบยังคงความงามไม่เปลี่ยนแปลง
[04]
OIRASE STREAM,AOMORI
ลำธารโออิราเซะ(Oirase Stream)
เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ลำธารแห่งนี้ไหลไปตามหุบเขาโออิราเซะ(Oirase Gorge) ท่ามกลางต้นไม้อันเขียวชอุ่มในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเฉดเหลืองแดงในฤดูใบไม้ร่วงประมาณปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน ระหว่างทางมีน้ำตกซึ่งไหลออกมาจากผนังของหุบเขากว่า 12 แห่งด้วยกัน
[05]
MT CHOKAI,AKITA
ภูเขาโจไค (Mt Chokai)
เป็นภูเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นฟูจิแห่งทางเหนือ และเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับที่ละติจูด 2236 เมตร ยอดของภูเขาอยู่ในอะมิกันของเมืองยูซามาชิและเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในยะมะงาตะ รู้จักกันในนามของ ภูเขาดิวะฟูจิ ซึ่งเป็นยอดเขาที่หันหน้าไปทางทะเลญี่ปุ่น ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเข้าฤดูหนาว ยอดเขาจะมีหิมะปกคลุมเป็นหมวกเหมือนกับฟูจิด้วย เราสามรถปีนเขาได้ในฤดูร้อน หรือ จะชมจากระยะไกลซึ่งรอบๆ ภูเขาก็มีเส้นทางขับรถเที่ยว ฟาร์มต่างๆ จุดชมวิว ร้านกาแฟน่ารักๆ ให้บริการอยู่หลายแห่ง
[06]
OYASU VALLEY, AKITA
หุบเขาโอยาสุ (Oyasu Valley)
เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากๆ บริเวณที่โด่งดังมีลักษณะเป็นหน้าผาริมคลอง แต่ที่พิเศษคือน้ำที่ไหลนั้นเป็นน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิและแร่ธาตุสูงมาก ทำให้มีไอตลอดเวลา เราสามารถเที่ยวโดยการเดินลงไปในร่องเขาแล้วเดินชมความงามเลียบควันที่ล่องลอยได้ เราสามารถเดินทางมาที่นี่ได้ทั้งทางรถบัสและรถยนต์ส่วนตัว แต่แนะนำว่าใช้รถส่วนตัวสะดวกกว่ามาก
[07]
MOUNT ZAO,YAMAGATA
ภูเขาซะโอ (Mount Zao)
เป็นเทือกเขาที่ทอดตัวตัดระหว่างจังหวัดมิยะงิ (Miyagi) และจังหวัดยามางาตะ (Yamagata) แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อได้มาเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูหนาวเลยก็คือปีศาจหิมะบนเขาซาโอ (The Snow Monsters of Mount Zao) ระหว่างช่วงปลายเดือนธันวาคม – ต้นเดือนมีนาคมของทุกปี ลมฤดูหนาวอันหนาวเหน็บจะพัดโหมเข้ากับต้นไม้จำพวกต้นสนที่มีใบเขียวตลอดปีจนเกิดปรากฏการณ์น้ำแข็งและหิมะเกาะต้นสน ก่อเกิดเป็นรูปร่างอันงดงาม ต้นสนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งสีขาวโพลนดูราวกับเป็นสัตว์ประหลาดในดินแดนหิมะ จนถูกเรียกกันว่าเป็น “ปีศาจหิมะ” เลยทีเดียว
[08]
KAMO AQUARIUM ,YAMAGATA
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคาโมะ (Kamo Aquarium) สัตว์น้ำยอดนิยมในจังหวัดยามากาตะจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากแมงกะพรุนมากกว่า 50 สายพันธุ์ และมีจำนวนการแมงกะพรุนที่จัดแสดงเยอะมากจนได้รับการบันทึกสถิติโลกกินเนสส์บุ๊คว่าเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่จัดแสดงแมงกะพรุนมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ไฮไลท์ประจำพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคาโมะแห่งนี้คือ Jellyfish Dome Theater ห้องจัดแสดงแมงกะพรุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เมตรและบรรจุน้ำกว่า 40 ตัน ออกแบบมาโดยคำนึงถึงพฤติกรรมการลอยตัวตามกระแสน้ำของแมงกะพรุน ขอบอกว่าในนี้มีแมงกะพรุนแหวกว่ายอยู่มากมายกว่า 4,000 ตัวเลยล่ะค่ะ
[09]
RYUSENDO,IWATE
ถ้ำริวเซ็นโด (RYUSENDO)
หนึ่งใน “Unseen Japan” ถ้ำหินปูนที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นมีความยาวมากกว่า 3,100 เมตร แต่เปิดให้เดินชมแค่เพียง 700 เมตรเท่านั้น ภายในถ้ำจะมีหินย้อยรูปร่างประหลาดที่เรียกกันว่า Moon Palace น้ำสีฟ้าครามที่ไหลไปรวมกันเป็นทะเลสาบใต้ดิน ซึ่งที่นี่มีถึง 4 แห่งด้วยกัน แถมที่นี่ยังมีสะพานที่สามารถให้เราเดินสำรวจได้ หากมองจากสะพานข้างบนน้ำจะสะท้อนแสงเป็นสีฟ้าใต้ความมืด เนื่องจากน้ำมีความใสสะอาดมาก จึงมีการติดไฟใต้น้ำเพื่อให้น้ำสะท้อนแสงสีน้ำเงินออกมา จนกลายเป็นที่รู้จักกันในนาม Dragon Blue นอกจากนี้ตลอดระยะทางในการเดินเข้าไปในถ้ำ ยังสามารถมองเห็นค้างคาวหลากหลายสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่บริเวณเพดานถ้ำได้ด้วย แถมยังสามารถจิบน้ำแร่ที่เชื่อกันว่าเมื่อได้ดื่มแล้วจะมีอายุยืนยาวไปอีก 3 ปี
[10]
JODOGAHAMA,IWATE
ชายหาดโจโดงาฮามะ(Jodogahama)
เกาะสวรรค์แห่งอิวาเตะ กรวดทรายสีขาว น้ำทะเลสีฟ้าเข้ม ท้องฟ้าสีคราม และบรรยากาศเงียบสงบ สามารถว่ายน้ำชมความงามใต้ท้องทะเล หรือ ล่องเรือชมทิวทัศน์ที่มีให้เลือกถึงสองแบบด้วยกัน คือ Blue Cave Cruise แล่นเรือไปชมวิวโดยรอบ และ Miyako Jodogahama Boat Cruise ไปเที่ยวชมเกาะหิน เข้าชมถ้ำสีฟ้า และแวะให้อาหารนกนางนวล นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง ห้องอาบน้ำ ร้านอาหาร มีการจัดนิทรรศการเล็กๆเกี่ยวกับชายฝั่งทะเล และแนะนำเส้นทางในการเดินชมชายหาดด้วย
[11]
ZAO FOX VILLAGE,MIYAGI
หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะ (Zao Fox Village)
ตั้งอยู่ที่เมืองเซ็นได (Sendai) จังหวัดมิยะงิ (Miyagi) เมื่อมาถึงที่นี่ไม่ว่าใครก็ต้องยอมแพ้ให้กับความน่ารักน่าชังของเจ้าสุนัขจิ้งจอก ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ของเทพเจ้า หรือเป็นตัวแทนของเทพอินาริโอคามิ เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นชาวญี่ปุ่นจึงให้ความสำคัญกับสุนัขจิ้งจอก ซึ่งที่นี่เองก็เปิดเป็นพื้นที่ให้เข้าชมเหล่าสุนัขจิ้งจอกกว่า 6 สายพันธุ์ สามารถเล่นกับเจ้าสุนัขจิ้งจอกพวกนี้ได้อย่างใกล้ชิด แถมยังป้อนอาหารให้ได้ด้วย แต่ก็ต้องระมัดระวัง เพราะสุนัขจิ้งจอกพวกนี้ซนเอาเรื่องเลยละ แต่ก็ยังมีมุมน่ารักๆให้เห็นมากมาย ถ้าได้มาที่นี่ละก็ต้องหลงรักเจ้าสุนัขจิ้งจอกขึ้นมาแน่ๆ ถึงแม้ที่นี่จะขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกแต่ก็มีกระต่าย แพะ ม้าแคระ ที่มีความน่ารักไม่แพ้กันรวมถึงให้อาหารอย่างใกล้ชิดได้ด้วย
[12]
MATSUSHIMA,MIYAGI
อ่าวมัตสึชิมะ(Matsushima) ถือเป็นอ่าวที่งดงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และยังติด 1 ใน 3 ของอ่าวที่สวยที่สุดในโลกเมื่อปี 2013 ด้วย ทิวทัศน์โดยรอบของอ่าวมัตสึชิมะยังมีหมู่เกาะเล็กๆกระจายอยู่มากมายกว่า 260 เกาะ ดังนั้นเพื่อจะได้เก็บทัศนียภาพ และชมหมู่เกาะให้ได้มากที่สุด ขอแนะนำให้เพื่อนๆนั่งเรือครูซรอบเกาะค่ะ ซึ่งแบ่งเป็นสองทางใหญ่ คือ นั่งเรือวนหมู่เกาะรอบอ่าวมัตสิชิมะ และนั่งเรือชมอ่าวมัตสึชิมะ ยาวไปถึงมารีนเกท ชิโอะกามะ เมืองชิโอกามะ นอกจากนี้ยังมีการนั่งเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน ชมภูเขา และฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงมีการอธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษด้วย
ขอบคุณ : Travelkanuman / Thestandard / Jnto / Amazingcouple / Anngle.Org